JIMI THE COACH GROUP
ขอเรียนเชิญร่วมเป็นเกียรติและร่วมอนุโมทนา
ถวายผ้าพระกฐินพระราชทาน ประจำปี พ.ศ. 2566

กฐินพระราชทาน

วัดท่าหลวง พระอารามหลวง เป็นวัดสำคัญคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดพิจิตร ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำน่านฝั่งตะวันตก ถนนบุษบา ใกล้ศาลากลางจังหวัดเก่า  สร้างขึ้นเมื่อประมาณ พ.ศ.2388 ในรัชกาลพระบามสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว

โดยวัดแห่งนี้เป็นที่ประดิษฐานหลวงพ่อเพชร พระพุทธรูปปางมารวิชัย ศิลปะเชียงแสน ที่มีอายุกว่า 800 ปี หล่อด้วยทองสำริด และมีพุทธลักษณะงามล้ำเกินคำบรรยาย      ตามประวัติเล่าว่า พระพิจิตรผู้เป็นเจ้าเมืองอยากได้ พระประธานมาประดิษฐานที่เมืองพิจิตร เมื่อทัพกรุงศรีอยุธยาเดินทางผ่านเมืองเพื่อไปปราบขบถจอมทองเมืองเชียงใหม่ พระพิจิตรจึงได้ขอร้องแม่ทัพว่า หากปราบขบถเสร็จแล้ว ขอให้หาพระพุทธรูปมาฝาก  ครั้นเมื่อเสร็จศึก แม่ทัพนั้นได้อาราธนาพระพุทธรูปหลวงพ่อเพชร ลงแพลูกบวบล่องมาทางแม่น้ำปิง โดยฝากเจ้าเมืองกำแพงเพชรไว้ จากนั้นได้อาราธนาหลวงพ่อเพชรมา ประดิษฐานไว้ ณ อุโบสถวัดนครชุมก่อน แล้วจึงย้ายมาประดิษฐานที่พระอุโบสถวัดท่าหลวง พระอารามหลวง  อำเภอเมืองพิจิตร จนถึงปัจจุบัน 

ท่านผู้มีจิตศรัทธา สามารถร่วมทำบุญ ได้ที่

ธนาคารกสิกรไทย  ชื่อบัญชี นางพจนารถ ซีบังเกิด เพื่อกฐินพระราชทาน วัดท่าหลวง ๒๕๖๖
เลขที่บัญชี 1661757643


โปรดระบุ ชื่อ-นามสกุล ที่อยู่ พร้อมหลักฐานการโอนเพื่อขอรับใบอนุโมนทนาบัตร

หรือ หากประสงค์ร่วมตั้งกองบุญ สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ คุณณัจยา นันทเทิม โทร. 085-953-9944

สแกน QR 
เพื่อขอรับใบอนุโมทนาบัตร

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป (Personal Data)

    วัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูล 1. บริษัทมีความจำเป็นเก็บรวบรวมใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ เพื่อการให้บริการที่กำหนดและระบุไว้สำหรับแต่ละเงื่อนไขการให้บริการของบริษัท อันรวมถึงเพื่อการยืนยันตัวตนและติดตามในการทำธุรกรรมต่างๆ ของผู้ใช้บริการ เพื่อการตรวจสอบเงื่อนไขการชำระเงินค่าบริการ เพื่อใช้ในการติดต่อสื่อสารกับผู้ใช้บริการ เป็นต้น 2. บริษัทมีความจำเป็นเก็บและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ เพื่อการวิเคราะห์ความสนใจของผู้ใช้บริการ เพื่อให้สามารถเสนอสิทธิประโยชน์หรือบริการตามความสนใจของผู้ใช้บริการได้มากขึ้น หรือเพื่อการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นระหว่างบริษัทและผู้ใช้บริการ 3. บริษัทมีความจำเป็นจัดเก็บและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ เพื่อวัตถุประสงค์ในการให้บริการสนับสนุนอื่นๆ เช่น การติดต่อสอบถามข้อมูลติชมแสดงความคิดเห็นหลังการบริการ หรือการส่งคำร้องต่างๆ 4. บริษัทมีความจำเป็นจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ เพื่อปฏิบัติตามข้อกฎหมายและระเบียบบังคับใช้ของรัฐ เช่น การจัดทำเอกสารภาษี หัก ณ ที่จ่าย หรือการดำเนินการอื่นๆ ที่กฎหมายกำหนด ทั้งนี้ บริษัทจะเก็บและรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการไว้ตลอดระยะเวลา ตราบเท่าที่ผู้ใช้บริการยังคงเป็นผู้ใช้บริการของบริษัทอยู่ และบริษัทสงวนสิทธิเก็บข้อมูลไว้อีกเป็นระยะเวลา 3 ปีหลังจากผู้ใช้บริการยกเลิกการใช้บริการ เพื่อประโยชน์ในการปกป้องและต่อสู้สิทธิต่างๆ ของบริษัท เว้นแต่กฎหมายที่เกี่ยวข้องกำหนดให้บริษัทมีหน้าที่เก็บข้อมูลส่วนบุคคลไว้เป็นระยะเวลาอื่น บริษัทอาจมีความจำเป็นต้องเก็บข้อมูลไว้เป็นระยะเวลาที่ยาวนานกว่า 3 ปี

Save