ทำไมคำถาม COACHING มีความสำคัญในที่ทำงาน

Coaching, Life Coach, โค้ช, ไลฟ์โค้ช

ในทุกขณะที่สถานการณ์ในที่ทำงานกำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว บทบาทของคำถามในกระบวนการ COACHING กลายเป็นสิ่งจำเป็น นอกเหนือจากเทคนิคการจัดการแบบดั้งเดิม การใช้คำถามในการสร้างวัฒนธรรมของการร่วมมือ การเติบโต และความสำเร็จที่ยั่งยืน คือเหตุผลที่คำถามในแบบ COACHING เป็นสิ่งที่ขาดหายไม่ได้ในสถานที่ทำงาน


วันนี้เราจะมาคุยถึงประเด็นสำคัญในการทำงานที่ คำถาม COACHING จะเข้ามามีส่วนช่วยคุณในการบริหารคนและบริหารงาน

1. การทำให้พนักงานมีความรับผิดชอบ

คำถามโค้ชชิ่ง ทำให้พนักงานมีอำนาจในการตัดสินใจเลือกวิธีการจัดการปัญหาด้วยตัวเอง โดยใช้คำถามที่กระตุ้นให้เกิดการคิดเกี่ยวกับงาน เป้าหมาย และความท้าทาย การทำให้พนักงานมีอำนาจในการเลือกเส้นทางการจัดการปัญหาด้วยตนเองส่งผลให้เพิ่มความมั่นใจ ความเข้าใจลึกซึ้ง และการแก้ไขปัญหาโดย proactively ซึ่งเมื่อเกิดการเลือกแนวทางการจัดการปัญหาด้วยตนเองแล้วและทบทวนมาดีแล้ว พนักงานคนนั้นจะมีความรับผิดชอบกับสิ่งที่ตัวเองได้ตัดสินใจ 100%

2. เพิ่มความต้องการพัฒนาตนเอง ผ่านมุมมองจากตนเอง โดยไม่ต้องให้ใครมาออกคำสั่ง

คำถาม COACHING ช่วยกระตุ้นความคิด ทำให้บุคคลได้รับความเข้าใจลึกซึ้งเกี่ยวกับจุดแข็ง จุดอ่อน และพื้นที่ที่สามารถพัฒนาได้ของตนเอง ซึ่งในบางครั้งพนักงานก็ลืมมองเรื่องของการพัฒนาต่อยอดในตนเอง อาจจะด้วยภาระงานที่ต้องทำสิ่งตรงหน้าให้สำเร็จหรือระยะเวลาการทำงานที่นาน อาจจะทำให้เคยชินกับบรรยากาศ การถามคำถามแบบ COACHING จะเพิ่มความรู้สึกสงสัยใคร่รู้ในการพัฒนาตนเองซึ่งจะเป็นพื้นฐานสำหรับการพัฒนาทุกด้าน หากพนักงานมีความเชื่อว่า ฉันดีอยู่แล้ว การพัฒนาจะไม่มีวันเกิดขึ้นแต่หากพนักงานมีข้อสงสัยว่า มีอะไรอีกไหมในตัวฉัน ที่ฉันสามารถพัฒนาให้ดีขึ้นได้อีก เขาจะเริ่มค้นหาเส้นทางหรือวิธีการที่จะพัฒนาตนเองต่อไป

Coaching, โค้ช, Team Coaching

3. การจัดเป้าหมายที่สอดคล้อง

คำถามในกระบวนการโค้ชชิ่ง ช่วยให้เป้าหมายของบุคคลสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ทั้งหมดของทีมและองค์กร ความสอดคล้องนี้ทำให้ทุกคนทำงานไปในทิศทางเดียวกัน ส่งเสริมความสอดคล้องและความสำเร็จร่วมกัน

4. การสื่อสารที่ดีขึ้น

การใช้คำถามแบบ COACHING จะช่วยส่งเสริมการสื่อสารที่ทำให้พนักงานรู้สึกว่าตนเองได้รับการฟังและได้รับความคุ้มครอง ทำให้เกิดวัฒนธรรมการทำงานที่โปร่งใสมากขึ้น

5. สร้างวัฒนธรรมการเรียนรู้โดยการส่งเสริมการเรียนรู้ต่อเนื่องผ่านคำถามแบบโค้ชชิ่ง

โดยการส่งเสริมการเรียนรู้ต่อเนื่องผ่านคำถามแบบCOACHING นวัตกรรมและศักยภาพในการทำงาน คือสิ่งที่องค์กรต้องการจากพนักงานทุกคนไม่มากก็น้อยแล้วแต่บทบาทหน้าที่ของแต่ละบุคคล การเรียนรู้อย่างไม่สิ้นสุดที่จะนำไปสู่การพัฒนาอย่างต่อเนื่องขององค์กร ซึ่งจุดเริ่มต้นแรกคือคำถาม และพื้นที่ในการตอบคำถามที่ปลอดภัยเพียงพอ ที่จะแสดงความคิดเห็นออกมาแล้วไม่ถูกทำให้อับอายหรือทำให้เสียความมั่นใจ หากหัวหน้ามีทักษะที่จะรู้ว่าจะถามคำถามอย่างไร เพื่อให้คำถามนั้นปลอดภัยที่จะตอบ จะทำให้พนักงานเองค่อยๆ เปิดใจ และค่อยๆ เริ่มหาสิ่งใหม่ๆ มานำเสนอ จนเกิดเป็นความสนุกที่ได้หาสิ่งใหม่ๆ มาให้องค์กร ได้รู้สึกว่าตนเองมีคุณค่ากับองค์กร ความรู้สึกนี้จะค่อยๆเป็นจุดเริ่มต้นขององค์กรที่มี นวัตกรรมและศักภาพสูงสุด โดยการเริ่มต้นด้วย คำถามแบบ COACHING และพื้นที่ ที่ปลอดภัยในการตอบ

COACH, โค้ช, โค้ชชิ่ง, ทีม, Team, Life Coach, Coaching

ไลฟ์โค้ช: เพื่อนร่วมเดินทางไปกับชีวิตที่เต็มไปด้วยความหมายและความสำเร็จ

Coach, Coaching, Life Coaching, โค้ช, Jimi The Coach_Training

ทักษะไลฟ์โค้ชได้กลายเป็นที่นิยมมากขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เหตุผลหลายประการทำให้คำถามดี ๆ กลายเป็นส่วนสำคัญในแรงบันดาลใจเพื่อสร้างชีวิตที่มีสมดุล ทั้งในด้านการงานและชีวิตส่วนตัว ในบทความนี้ เราจะสำรวจการบทบาทของไลฟ์โค้ชและทำไมการได้รับคำถามจากไลฟ์โค้ชถึงน่าสนใจ

คำถามเพื่อการตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน

ไลฟ์โค้ชมีความเชี่ยวชาญในกระบวนการการตั้งคำถามและการพูดคุยอย่างมีเป้าหมาย ช่วยให้การตั้งเป้าหมายของผู้รับการโค้ชที่ชัดเจนและมีขั้นตอนการดำเนินงานที่เหมาะสม ไม่ว่าเป้าหมายจะเป็นการพัฒนาทางวิชาการ, สุขภาพ, หรืออื่น ๆ, ไลฟ์โค้ชจะมีคำถามที่ช่วยให้คุณเข้าใจว่าต้องการอะไรและวางแผนการดำเนินการ

การสนับสนุนในการพัฒนาส่วนตัว

ไลฟ์โค้ชไม่เพียงเป็นผู้ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการตั้งเป้าหมาย แต่ยังเป็นที่สนับสนุนในการพัฒนาทักษะและความสามารถส่วนตัว. โดยไม่ละเว้นที่จะสำรวจเพื่อเข้าใจในตัวตนของผู้รับการโค้ช เพื่อทำให้การโค้ชนั้นเกิดการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงในระดับตัวตน ความคิด ความเชื่อ ซึ่งเป็นต้นทาง ของการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมที่ยั้งยืน

การสร้างแผนการทำงาน

ไลฟ์โค้ช Jimi the coach planning

ไลฟ์โค้ชช่วยในการสร้างแผนการทำงานที่ทันสมัยและทันที เพราะไลฟ์โค้ชชิ่งในแบบของ JIMI THE COACH มุ่งเน้นการคุยที่ปัจจุบัน มุ่งสู่อนาคต  ด้วยคำถามถึงภาพที่ดีที่สุด ผ่าน BE DO HAVE หรือ GROW Model รูปแบบในการพูดคุยเหล่านี้จะช่วยผู้รับการโค้ชในการตั้งเป้าหมายสั้น ๆ  และการกำหนดลำดับขั้นตอน ไลฟ์โค้ชจะมีส่วนช่วยให้คนสามารถดำเนินการในทิศทางที่ถูกต้อง

การกระตุ้นแรงจูงใจ

คำถามของโค้ชจะมีบทบาทในการกระตุ้นแรงจูงใจ การให้การยืนยัน และ การช่วยให้คนเห็นภาพในอนาคตที่สว่างสดใส, คำถามจากโค้ชจะช่วยให้คนรู้สึกมั่นใจและมีกำลังใจในการดำเนินชีวิต

การให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการตัดสินใจ

การตัดสินใจสำคัญในการสร้างชีวิตที่ดี ไลฟ์โค้ชมีความเชี่ยวชาญในการตั้งคำถามเพื่อยืนยันกับตัวตนของผู้รับการโค้ช ให้การตัดสินใจนั้นเป็นมิตรกับเป้าหมายและค่านิยมของตนเอง วิธีการนี้ช่วยให้คนตัดสินใจอย่างมั่นใจและไม่กลัวการล้มเหลว

การสร้างสรรค์แนวทางชีวิต

ไลฟ์โค้ชในบางครั้งมีบทบาทในการช่วยให้ผู้รับการโค้ชได้นึกหรือได้เห็นแนวทางที่หลากหลายในการใช้ชีวิตหรือการจัดการปัญหาต่างๆ ช่วยตั้งคำถามเพื่อสร้างแนวทางชีวิตที่สอดคล้องกับความฝันและค่านิยม ไลฟ์โค้ชช่วยให้คนเห็นภาพของชีวิตที่ต้องการและสร้างแผนที่ช่วยให้สามารถถึงเป้าหมายได้อย่างมีความสุข

ไลฟ์โค้ช, Group coaching, Coaching, Consulting

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป (Personal Data)

    วัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูล 1. บริษัทมีความจำเป็นเก็บรวบรวมใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ เพื่อการให้บริการที่กำหนดและระบุไว้สำหรับแต่ละเงื่อนไขการให้บริการของบริษัท อันรวมถึงเพื่อการยืนยันตัวตนและติดตามในการทำธุรกรรมต่างๆ ของผู้ใช้บริการ เพื่อการตรวจสอบเงื่อนไขการชำระเงินค่าบริการ เพื่อใช้ในการติดต่อสื่อสารกับผู้ใช้บริการ เป็นต้น 2. บริษัทมีความจำเป็นเก็บและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ เพื่อการวิเคราะห์ความสนใจของผู้ใช้บริการ เพื่อให้สามารถเสนอสิทธิประโยชน์หรือบริการตามความสนใจของผู้ใช้บริการได้มากขึ้น หรือเพื่อการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นระหว่างบริษัทและผู้ใช้บริการ 3. บริษัทมีความจำเป็นจัดเก็บและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ เพื่อวัตถุประสงค์ในการให้บริการสนับสนุนอื่นๆ เช่น การติดต่อสอบถามข้อมูลติชมแสดงความคิดเห็นหลังการบริการ หรือการส่งคำร้องต่างๆ 4. บริษัทมีความจำเป็นจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ เพื่อปฏิบัติตามข้อกฎหมายและระเบียบบังคับใช้ของรัฐ เช่น การจัดทำเอกสารภาษี หัก ณ ที่จ่าย หรือการดำเนินการอื่นๆ ที่กฎหมายกำหนด ทั้งนี้ บริษัทจะเก็บและรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการไว้ตลอดระยะเวลา ตราบเท่าที่ผู้ใช้บริการยังคงเป็นผู้ใช้บริการของบริษัทอยู่ และบริษัทสงวนสิทธิเก็บข้อมูลไว้อีกเป็นระยะเวลา 3 ปีหลังจากผู้ใช้บริการยกเลิกการใช้บริการ เพื่อประโยชน์ในการปกป้องและต่อสู้สิทธิต่างๆ ของบริษัท เว้นแต่กฎหมายที่เกี่ยวข้องกำหนดให้บริษัทมีหน้าที่เก็บข้อมูลส่วนบุคคลไว้เป็นระยะเวลาอื่น บริษัทอาจมีความจำเป็นต้องเก็บข้อมูลไว้เป็นระยะเวลาที่ยาวนานกว่า 3 ปี

Save